ปล. ไม่สนุกหรอก แต่งแบบรีบๆ ทำส่งครูเฉยๆ ถ้ามีคนสนใจก็ดีสิ 555+ อาจจะใช้คำถูก ผิดบ้างขอโทษนะคะ T w T
Titlle: Schemer
Author: Mxnus
Genre(S): Crime
ผมเป็นเด็ก ม.4 ธรรมดาๆคนหนึ่งที่มีชีวิตเรียบง่าย ที่มักติดนิยายสืบสวน แต่ก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษนัก แฟนก็ไม่มี การเรียนก็ปานกลาง เพื่อนก็น้อย หน้าตาก็ห่วย มันก็แหงอยู่แล้ว เพราะตลอดชีวิต 15 จะ 16 ปี ของผมอยู่ด้วยความเบื่อหน่ายไร้จุดหมายสิ้นดี
และแล้วเวลานี้ก็มาถึง.. วันเปิดเทอมวันแรกโรงเรียนของผมที่เป็นโรงเรียนชายล้วนมอปลายธรรมดาๆ ผมอึ้งนิดๆที่พอเดินเข้าไปในโรงเรียนมันเงียบจนน่าขนลุกชะมัด คนในโรงเรียนคนน้อยจนผมคิดว่าผมมาโรงเรียนผิดวัน ขณะนั้นผมก็รู้สึกได้ว่า ตั้งแต่ผมก้าวเท้าเข้ามาในโรงเรียนนี้ ก็เป็นจุดเปลี่ยนชีวิตสุดธรรมดาของผมไปตลอดกาล..
เท้าของผมก้าวเท้าไปยังห้องประจำชั้นของผมนั่นคือห้อง 732 ห้องประจำชั้นของ ม.4/3 ผมรู้สึกว่าผมมาโรงเรียนเป็นคนที่ 10 ล่ะนะ แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนที่มีบ้านอยู่ใกล้โรงเรียน ผมจัดแจงหาที่นั่งที่เหมาะกับตัวเองที่สุดนั่นก็คือหลังห้อง..
ผมแปลกใจนะที่บรรยากาศในห้องดูอึมครึมแปลกอาจเพราะด้วยความที่ในห้องมีแต่ผู้ชายหรือเปล่านะ? และแล้วผมก็ผ่อนคลายนิดหน่อยเมื่อมีคนในห้องมาทักผมซักที เด็กแว่น หน้าตาแสนธรรมดา
“สวัสดีนะ ฉันชื่อนิคนะ นายชื่ออะไร” เขาถามผมด้วยเสียงเรียบๆ
“ฉันชื่อ แม็กซ์ นะ ยินดีที่ได้รู้จักวะ ฮ่าๆๆ แปลกจริงที่นายมาทักฉันก่อนเนี่ย” ผมหัวเราะพอเป็นพิธี แต่เจ้านิคก็หาได้มีปฏิกิริยาที่ดูยินดีตอบกลับมาเลย ในใจผมคิดนะว่า… นี่ตรูมาคิดถูกมั๊ยเนี่ยที่มาเข้าโรงเรียนนี้..
“ที่ต้องทักเพราะฉันต้องการที่จะรู้จักคนที่อาจจะเป็นศัตรูของฉันต่างหาก” ผมเริ่มหงุดหงิดคำพูดเจ้านี้ละ ที่มันดูน่าหมั่นไส้ซะเหลือเกิน
“ขอโทษด้วยว่ะ เหอะๆ” ผมยิ้มแห้งไปแล้วเจ้านั้นก็เดินกลบไปที่ของตัวเองที่อยู่หน้าสุด ท่าทางแบบนั้นคงพวกหัวดีแหงๆ แล้วชอบมาข่มคนอื่นเนี่ย
จากนั้นห้องก็เงียบไปพักใหญ่ก่อนนักเรียนจะเข้ามานั่งโต๊ะของตัวเองจนครบ ห้องของผมมีทั้งหมด 30 คน จัดโต๊ะกันแบบแถวนอน 5 ตัว แถวยาว 6 ตัว ซึ่งผมเองอยู่แถวสุดท้ายติดหน้าต่างพอดี ดูเป็นที่ของพวกพระเอกในนิยายที่ผมเคยอ่านนัก
ตุบๆ
เสียงคนเคาะโต๊ะทำให้ทุกคนในห้องต้องพากันหันไปมอง ต้นเสียงก็คือหน้าห้องนั่นเอง ที่พวกเราทุกคนเห็นคือมนุษย์ 5 คนในชุดสูทสีเทา ยืนอยู่หน้าห้องแล้วก็ใส่หมวกกระต่ายสุดแบ้ว ทุกคนในห้องก็ต่างพากันแปลกใจ รวมทั้งตัวผมเองด้วย
“สวัสดีนะ เจ้าพวกเด็กนรก ม.4/3 ฉันเป็นตัวแทนจากพวกรัฐบาลเองล่ะนะ พวกแกที่อยู่ห้องเดียวกันก็ทำความรู้จักกันไว้ซะล่ะ เพราะหลังจากสิ้นประกาศนี้พวกแกบางคนอาจจะไม่มีชีวิตรอดต่อไปก็ได้”
“ฮ่าๆๆๆๆๆ พวกแกนี่ตลกว่ะ ใครมันจะไปเชื่อพวกแกวะ” เจ้ากล้ามโตที่ท่าทางดูนักเลงถีบโต๊ะสุดแรง จนเพื่อนที่นั่งแถวนั้นต้องลุกหนีทันที ผมเริ่มกังวลนิดๆ
ปัง!!
เสียงที่ดังยิ่งกว่าพลุแตกทำเอาผมแทบแสบแก้วหู สิ่งที่ผมเห็นตรงหน้านั้นคือเจ้ากล้ามโตที่กำลังนอนพะงาบๆ ที่พื้น เลือดอาบนองจากแผลที่โดนลูกตะกั่วทะลุช่องท้อง.. ตัวผมเองถึงกับขนหัวลุกแต่ก็มองดูนิ่งๆ เพื่อนผมคนนึงกำลังจะวิ่งหนีออกจากห้อง
“มันมีกฎว่าใครที่คิดจะหนีจากที่นี่จะโดนเก็บแน่นอนนะจ้ะ” เจ้าชุดสูทหนึ่งคนเอาวัตถุบางสิ่งแทงเข้าที่หลังของเพื่อนในห้องของผม ผมได้แต่อึ้งกับการกระทำที่สุดป่าเถื่อนของมัน ฉี่แทบราด แต่ก็ต้องอยู่เฉยๆ ด้วยความกลัวตาย
“ก็นั่นล่ะ มีใครมีปัญหาอีกมั๊ยจ้ะ ถ้าไม่มีพวกสวะอย่างแกก็มาฟังประกาศจากพวกฉันกันเถอะ อันดับแรกเราก็มาเริ่มกันนะ ว่าทางรัฐบาลได้เงินสนับสนุนมาจากมหาเศรษฐีคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเงินจำนวนมหาศาล โดยความต้องการของเขานั้นคือการที่จะดูการถ่ายทอดสดเกมฆาตรกรรมของพวกเด็กนักเรียนสุดซวยอย่างพวกเธอนั่นเอง โดยใครคนนึงที่สามารถอยู่รอดจากเกมนี้ จะมีเงินรอเธออย่างมหาศาลเชียวล่ะนะ”
นี่มันเรื่องบ้าอะไรของคนในประเทศ.. ผมกลืนน้ำลายที่มันดูยากกว่าปกติ เหงื่อไหลท่วมด้วยความกลัว
“เราไม่มีอาวุธให้นะจ้ะ ต้องหากันเอาเองให้ตึกเรียนนี้ แล้วก็อย่ามีการช่วยเหลือกันฉันเพื่อนด้วยนะ เพราะถ้าภายใน 1 ชม ถ้าไม่มีใครตายล่ะก็ พวกฉันก็คงจะสุ่มเอาละกัน ให้พวกแกคนใดคนหนึ่งตายแบบไม่รู้ตัวเลยล่ะ อ่อแล้วก็ไม่ต้องห่วงพ่อแม่ ครอบครัวของพวกเธอนะจ้ะ พวกเราส่งเงินไปให้พวกท่านเพื่อนปิดปากกันหมดแล้วล่ะนะ อิอิ”
ผมช็อคไปนิดๆกับประโยคที่สุดท้ายของมัน.. ผมได้แต่เอะใจว่าพ่อแม่ต้องการเงินมากกว่าชีวิตลูกคนนึงเลยอย่างนั่นหรือ.. แต่ด้วยความสงสัยในข้อนั้นเองผมกลับมองไปหาเพื่อนที่ยังเหลือดรอดทั้ง 27 คน ซึ่งทุกคนดูตั้งใจฟังอย่างใจเย็น โดยเฉพาะเจ้านิค ผมไม่เข้าใจว่าทำไมมีผมเพียงคนเดียวที่หวาดกลัวกับการกระทำของพวกมัน
“เราจะให้พวกแกทำความรู้จักกันก่อนนะ ภายในเวลา 24 ชม. เพราะงั้น 9.00 น. ของพรุ่งนี้เกมของพวกแกจะเริ่ม เตรียมตัวเตรียมใจไว้ให้ดีนะ เพราะพวกแกน่ะเลือกแล้ว..”
เลขที่ 20 ม. 6/12